Blog : Frontiers in AgTech Seminar Series 2: Plant factory with Artificial Light
รหัสอ้างอิง : 1002
ชื่อสมาชิก : ปารวี กาญจนประโชติ
เพศ : หญิง
อีเมล์ : parawee@mju.ac.th
ประเภทสมาชิก : บุคลากรภายใน [สังกัด]
ลงทะเบียนเมื่อ : 29/3/2555 5:18:19
แก้ไขล่าสุดเมื่อ : 29/3/2555 5:18:19

รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งหมดของ Blog : Frontiers in AgTech Seminar Series 2: Plant factory with Artificial Light
การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้รับฟังการบรรยาย เรื่อง Future Trends in Plant Factory บรรยายโดย ผศ.ดร.สิริวัฒน์ สาครวาสี โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรงงานผลิตพืช หรือ plant factory ซึ่งเป็นระบบผลิตพืชที่มีคุณภาพที่คงที่ อาจเป็นระบบปิดหรือกึ่งปิด สามารถปลูกพืชในทุกสภาพแวดล้อม และมีการบรรยายถึงแนวโน้มของโรงงงานผลิตพืชในอนาคต โดย Trends in Plant Factory Business แบ่งออกได้เป็น 7 Trends ได้แก่ 1. Big Plant Factory for Economy of Scale โดยการสร้างเป็นโรงงานผลิตพืชขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป เช่น มีการสร้างโรงงานผลิตพืชขนาดใหญ่ที่บริษัท SananBio ประเทศจีน 2. Medicinal Plant Production เป็นการใช้โรงงานผลิตพืชเพื่อผลิตพืชสมุนไพร หรือพืชที่มีมูลค่าสูงเพื่อการสกัดสาร เช่น การปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช โดย สวทช. 3. Data Driven Plant Factory เป็นการทำงานภายใต้ระบบข้อมูล 4. Harvest on Demand เป็นการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากโรงงานผลิตพืชที่สามารถเก็บได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่น การปลูกผักภายในระบบโรงงานผลิตพืชที่ลูกค้าสามารถเก็บผักได้ตามความต้องการ 5. Automation เป็นการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแทนแรงงานจากคน 6. Post Organic concept เป็นการปลูกพืชแบบอินทรีย์ 7. Failure of Plant Factory Business ความล้มเหลวของโรงงานผลิตพืชสามารถเกิดขึ้นได้ มีหลายสาเหตุที่ทำให้โรงงานผลิตพืชไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เช่น การกำหนดราคา ในกรณีของผักเมื่อมีการกำหนดราคาเทียบกับผักตามท้องตลาด, ต้นทุนแรงงาน, การควบคุมคนเข้าออกภายในโรงงานผลิตพืช และได้ฟังบรรยายเรื่อง Optimal Nutrient and Cultural Environments of Ice Plants โดย ดร.ธิติพัฒน์ วีเปลี่ยน ในเรื่องของการศึกษา Ice plants (Mesembryanthemum crystallinum L.) ซึ่งเป็นพืชคลุมดินที่ชอบเกลือ มีถิ่นกำเนิดจากแถบชายทะเลแอฟริกา เป็นพืชที่มีการสังเคราะห์แสงแบบ CAM พืชชนิดนี้สามารถสร้างสาร antioxidant ได้ เมื่ออยู่ในสภาพเครียด (stress) โดยผู้วิจัยได้สร้างสภาพเครียดให้กับ ice plants เพื่อให้พืชสร้างสาร pinitol (inositols) โดยสารชนิดนี้มีประโยชน์ในการปรับปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีการบรรยายถึงการเจริญเติบโตของ ice plants การผลิต ice plants ในระบบโรงงานผลิตพืช และราคาของ ice plants จะอยู่ที่ 150 บาท/ 100 กรัม ซึ่งเป็นที่นิยมนำมารับประทาน โดยเฉพาะในประเทศไต้หวันและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้ฟังบรรยาย เรื่อง Medical Cannabis Production in Plant Factory บรรยายโดยคุณรัชสิทธิ์ หิรัญญาภินันท์ ได้บรรยายประสบการณ์ในการปลูกกัญชา การปลูกกัญชาโดยส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเพื่อต้องการดอก โดยสารสำคัญในกัญชาจะอยู่ที่ไตรโครมซึ่งมีมากในช่วงของการติดดอก และได้มีการบรรยายเปรียบเทียบถึงการปลูกกัญชาใน green house, plant factory และการปลูกแบบ out door โดยข้อดีของการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช คือ สามารถปลูกได้หลายรอบ เนื่องจากสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ไม่ต้องใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช เมื่อเทียบกับการปลูกภายนอกซึ่งไม่สามารถปลูกได้ในฤดูฝน เนื่องจากเมื่อส่วนของไตรโครมโดนน้ำฝนแล้วจะเกิดความเสียหายส่งผลให้สูญเสียสาระสำคัญไป นอกจากนี้การที่ต้นกัญชาอยู่ในสภาพความชื้นสูงอาจส่งผลทำให้เป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคจากเชื้อราทำให้ดอกเน่า และข้อดีของการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืชอีกประการหนึ่ง คือ สามารถใช้แสงเพื่อกระตุ้นให้ต้นกัญชาสร้างไตรโครมได้เยอะ ทำให้ผลิตสารสำคัญในปริมาณที่สูงขึ้นด้วย การปลูกกัญชาภายนอก หรือ out door มีความเสี่ยงต่อดอกกัญชาได้รับการผสมจากแมลง เพราะเมื่อดอกถูกผสมจะสร้างเมล็ด ทำให้ต้นกัญชาสร้างไตรโครมได้น้อยลงและไม่ผลิตสารสำคัญ ซึ่งการปลูกในโรงงานผลิตพืชจะปราศจากแมลงในธรรมชาติ ทำให้ต้นกัญชาตัวเมียไม่ได้รับการผสมจึงทำให้สามารถผลิตสารสำคัญได้ และได้บรรยายถึงปัญหาและสิ่งที่ต้องคำนึงถึงการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ในโรงงานผลิตพืช คือ 1. สายพันธุ์ ที่มีสาระสำคัญทางยาสูง ผลผลิตดี 2. ศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ 3. เทคนิคของการปลูกกัญชา แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการใช้เทคโนโลยีการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช คือ ความคุ้มทุน เพราะต้นทุนของการปลูกพืชในโรงงานผลิตพืชนั้นค่อนข้างสูง
Frontiers in AgTech Seminar Series 2: Plant factory with Artificial Light » Frontiers in AgTech Seminar Series 2: Plant factory with Artificial Light
การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้รับฟังการบรรยาย เรื่อง Future Trends in Plant Factory บรรยายโดย ผศ.ดร.สิริวัฒน์ สาครวาสี โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรงงานผลิตพืช หรือ plant factory ซึ่งเป็นระบบผลิตพืชที่มีคุณภาพที่คงที่ อาจเป็นระบบปิดหรือกึ่งปิด สามารถปลูกพืชในทุกสภาพแวดล้อม และมีการบรรยายถึงแนวโน้มของโรงงงานผลิตพืชในอนาคต โดย Trends in Plant Factory Business แบ่งออกได้เป็น 7 Trends ได้แก่ 1. Big Plant Factory for Economy of Scale โดยการสร้างเป็นโรงงานผลิตพืชขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป เช่น มีการสร้างโรงงานผลิตพืชขนาดใหญ่ที่บริษัท SananBio ประเทศจีน 2. Medicinal Plant Production เป็นการใช้โรงงานผลิตพืชเพื่อผลิตพืชสมุนไพร หรือพืชที่มีมูลค่าสูงเพื่อการสกัดสาร เช่น การปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช โดย สวทช. 3. Data Driven Plant Factory เป็นการทำงานภายใต้ระบบข้อมูล 4. Harvest on Demand เป็นการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากโรงงานผลิตพืชที่สามารถเก็บได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่น การปลูกผักภายในระบบโรงงานผลิตพืชที่ลูกค้าสามารถเก็บผักได้ตามความต้องการ 5. Automation เป็นการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแทนแรงงานจากคน 6. Post Organic concept เป็นการปลูกพืชแบบอินทรีย์ 7. Failure of Plant Factory Business ความล้มเหลวของโรงงานผลิตพืชสามารถเกิดขึ้นได้ มีหลายสาเหตุที่ทำให้โรงงานผลิตพืชไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เช่น การกำหนดราคา ในกรณีของผักเมื่อมีการกำหนดราคาเทียบกับผักตามท้องตลาด, ต้นทุนแรงงาน, การควบคุมคนเข้าออกภายในโรงงานผลิตพืช และได้ฟังบรรยายเรื่อง Optimal Nutrient and Cultural Environments of Ice Plants โดย ดร.ธิติพัฒน์ วีเปลี่ยน ในเรื่องของการศึกษา Ice plants (Mesembryanthemum crystallinum L.) ซึ่งเป็นพืชคลุมดินที่ชอบเกลือ มีถิ่นกำเนิดจากแถบชายทะเลแอฟริกา เป็นพืชที่มีการสังเคราะห์แสงแบบ CAM พืชชนิดนี้สามารถสร้างสาร antioxidant ได้ เมื่ออยู่ในสภาพเครียด (stress) โดยผู้วิจัยได้สร้างสภาพเครียดให้กับ ice plants เพื่อให้พืชสร้างสาร pinitol (inositols) โดยสารชนิดนี้มีประโยชน์ในการปรับปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีการบรรยายถึงการเจริญเติบโตของ ice plants การผลิต ice plants ในระบบโรงงานผลิตพืช และราคาของ ice plants จะอยู่ที่ 150 บาท/ 100 กรัม ซึ่งเป็นที่นิยมนำมารับประทาน โดยเฉพาะในประเทศไต้หวันและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้ฟังบรรยาย เรื่อง Medical Cannabis Production in Plant Factory บรรยายโดยคุณรัชสิทธิ์ หิรัญญาภินันท์ ได้บรรยายประสบการณ์ในการปลูกกัญชา การปลูกกัญชาโดยส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเพื่อต้องการดอก โดยสารสำคัญในกัญชาจะอยู่ที่ไตรโครมซึ่งมีมากในช่วงของการติดดอก และได้มีการบรรยายเปรียบเทียบถึงการปลูกกัญชาใน green house, plant factory และการปลูกแบบ out door โดยข้อดีของการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช คือ สามารถปลูกได้หลายรอบ เนื่องจากสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ไม่ต้องใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช เมื่อเทียบกับการปลูกภายนอกซึ่งไม่สามารถปลูกได้ในฤดูฝน เนื่องจากเมื่อส่วนของไตรโครมโดนน้ำฝนแล้วจะเกิดความเสียหายส่งผลให้สูญเสียสาระสำคัญไป นอกจากนี้การที่ต้นกัญชาอยู่ในสภาพความชื้นสูงอาจส่งผลทำให้เป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคจากเชื้อราทำให้ดอกเน่า และข้อดีของการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืชอีกประการหนึ่ง คือ สามารถใช้แสงเพื่อกระตุ้นให้ต้นกัญชาสร้างไตรโครมได้เยอะ ทำให้ผลิตสารสำคัญในปริมาณที่สูงขึ้นด้วย การปลูกกัญชาภายนอก หรือ out door มีความเสี่ยงต่อดอกกัญชาได้รับการผสมจากแมลง เพราะเมื่อดอกถูกผสมจะสร้างเมล็ด ทำให้ต้นกัญชาสร้างไตรโครมได้น้อยลงและไม่ผลิตสารสำคัญ ซึ่งการปลูกในโรงงานผลิตพืชจะปราศจากแมลงในธรรมชาติ ทำให้ต้นกัญชาตัวเมียไม่ได้รับการผสมจึงทำให้สามารถผลิตสารสำคัญได้ และได้บรรยายถึงปัญหาและสิ่งที่ต้องคำนึงถึงการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ในโรงงานผลิตพืช คือ 1. สายพันธุ์ ที่มีสาระสำคัญทางยาสูง ผลผลิตดี 2. ศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ 3. เทคนิคของการปลูกกัญชา แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการใช้เทคโนโลยีการปลูกกัญชาในโรงงานผลิตพืช คือ ความคุ้มทุน เพราะต้นทุนของการปลูกพืชในโรงงานผลิตพืชนั้นค่อนข้างสูง
คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ : กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร
หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
สถิติการเข้าถึง : เปิดอ่าน 1657  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
ผู้เขียน ปารวี กาญจนประโชติ  วันที่เขียน 3/10/2562 10:57:09  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 28/3/2567 11:40:30

URL สำหรับอ้างอิงถึงหน้านี้