การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระบบห่วงโซ่อุปทานของทุเรียนในพื้นที่ภาคใต้
และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการห่วงโซ่อุปทานกับการวัดสมรรถนะในโซ่อุปทานของ
ทุเรียนโดยใช้เทคนิควิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และเชิงปริมาณ (Quantitative
Research) ควบคู่กัน
ผลวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ทุเรียนในภาคใต้ พบว่า
ประกอบด้วย ห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญ คือ ต้นน้ำหรือผู้ผลิต ได้แก่ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน กลางน้ำ
ได้แก่ ผู้ที่ทำหน้าที่รวบรวมหรือรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรผู้ผลิตและนำไปจำหน่ายต่อหรือแปรรูป
ประกอบด้วย ผู้ประกอบการคัดแยกเพื่อการส่งออกจำหน่ายต่างประเทศและในประเทศ (ลาน
ทุเรียน/ล้ง) และกลุ่มผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ทุเรียน (ทุเรียนอบแห้งและทุเรียนกวน) พ่อค้าคนกลาง
(ขายส่ง) และปลายน้ำ ได้แก่ ผู้ส่งออก ลูกค้าภายในประเทศ ตลาดต่างประเทศ
2) กระบวนการจัดการโซ่อุปทานจะส่งผลการความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นั่นคือ กระบวนการจัดการโซ่อุปทานจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบใน
การแข่งขันของกิจการทั้งในด้านของต้นทุน คุณภาพ และระยะเวลา
3) กระบวนการจัดการโซ่อุปทานส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกิจการอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4) ความได้เปรียบในการแข่งขันส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกิจการอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05