เมนู
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
Maejo University
ติดต่อ
บุคลากร (เข้าสู่ระบบ)
หน้าหลัก
บุคลากร
พัฒนาบุคลากรและกิจกรรม
การประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน (กิจกรรมพรรณไม้นานาพันธุ์ (ตลาดต้นไม้))
วันที่เริ่มต้น
04/11/2568
เวลา
0:00
วันที่สิ้นสุด
10/11/2568
เวลา
0:00
ทั้งวัน
สถานที่จัด
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
ภายในสถาบัน
ในประเทศ
ต่างประเทศ
หน่วยงานที่จัด
ผู้รับผิดชอบ
ผู้เข้าร่วม
หน่วยงานที่จัด
คณะ/สำนัก
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
สาขา/กอง
หน่วยงานภายใน
ชื่อหน่วยงาน
ผู้รับผิดชอบหลัก
ไม่มีข้อมูล
ผู้รับผิดชอบหลัก (นักศึกษา)
ไม่มีข้อมูล
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีจุดกำเนิดมาจาก "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมหอวัง" ซึ่งจัดตั้งโดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ในปี พ.ศ. 2460 โดยตั้งอยู่ที่บริเวณหอวัง หรือบ้านสวนหลวงสระประทุม (บริเวณกรีฑาสถานแห่งชาติในปัจจุบัน) โรงเรียนแห่งนี้ต่อมาเป็นรากฐานความคิดและกิจกรรมของรัฐ ด้านให้การศึกษาแผนใหม่ทางการเกษตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2477 กระทรวงธรรมการได้จัดตั้ง "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ" ขึ้นโดยมีพระช่วงเกษตรศิลปะการ ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ และในปี 2479 กระทรวงธรรมการได้จัดตั้ง "โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ" ขึ้นในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ปี 2481 กระทรวงธรรมการได้ยุบโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคใต้ ที่สงขลา โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคกลาง ที่บางกอกน้อย และโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคอีสาน ที่นครราชสีมา และโอนกิจการโรงเรียนเหล่านั้นทั้งหมดมารวมกันที่โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือที่แม่โจ้เพียงแห่งเดียว ในปีเดียวกันนี้ โรงเรียนได้ย้ายไปอยู่ในความดูแลของกระทรวงเกษตรตราธิการ และเปลี่ยนสถานะมาเป็น "วิทยาลัยเกษตรศาสตร์แม่โจ้" หลังจากที่ มหาวิทยาลัยเกษตรบางเขน ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2482 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์แม่โจ้ได้เปลี่ยนเป็น "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" ในอีก 4 ปีหลังจากนั้น และก็ได้มีการพัฒนาเรื่อยมาและเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนเกษตรศาสตร์แม่โจ้" ในปี 2491 และยกฐานะเป็น "วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่" ในปี 2499 ก่อนที่จะได้รับการสถาปนาเป็น "สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร" ในปี 2518 จนกระทั่ง พ.ศ. 2525 สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้"
"มหาวิทยาลัยแม่โจ้" ได้รับการจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2539 เพื่อขยายขอบเขตการศึกษาเกิดความคล่องตัวทางวิชาการและการบริหารมากขึ้น ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2539 เปลี่ยนสถานะจากมหาวิทยาลัยของรัฐเป็น มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2560 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560 และมีผลบังคับใช้ 30 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีพัฒนาการต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่การจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 จนถึงปัจจุบัน
โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีการเปิดสอนในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกโดยมีความหลากหลายในสาขาวิชานอกเหนือจากสาขาเกษตรกรรมซึ่งแม่โจ้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทางด้านการปฏิบัติมาตั้งแต่ในช่วงของการศึกษาด้านอาชีวศึกษา โดยเปิดสอนทั้งหมด 11 คณะ 3 วิทยาลัย ได้แก่ คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะบริหารธุรกิจ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม คณะพัฒนาการท่องเที่ยว คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร คณะสารสนเทศและการสื่อสาร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาลัยบริหารศาสตร์ วิทยาลัยพลังงาน และวิทยาลัยนานาชาติ บนพื้นที่ 7,164 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งยังมีการขยายส่วนการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาคต่าง ๆ คือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ บนพื้นที่ 2,352 ไร่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร ที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร บนพื้นที่ 2,005 ไร่ โดยมีปรัชญา วิสัยทัศน์ ภารกิจค่านิยมหลัก เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การดำเนินงานดังต่อไปนี้
ปรัชญาของมหาวิทยาลัย “มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นฐานราก”
วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย “เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีความเป็นเลิศทางการเกษตรในระดับนานาชาติ” โดยมีคำอธิบายวิสัยทัศน์ (Vision Statement) ดังนี้คือ “เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเครือข่ายความร่วมมือเชิงวิชาการ สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นศาสตร์ผสมผสานสอดคล้องกับวัฒนธรรมในพื้นที่มีความโดดเด่นในด้านการเกษตรที่เป็นอัตลักษณ์ และเป็นศักยภาพของพื้นที่ด้วยบุคลากรที่มีทักษะระดับมืออาชีพ และการบริหารจัดการที่มีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากลบนตัวตนของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ภารกิจของมหาวิทยาลัย มีดังนี้
1.ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถในวิชาการและวิชาชีพโดยเฉพาะการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurs) ที่ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงโดยเน้นทางด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ภาษาต่างประเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชนท้องถิ่น และสังคมของประเทศ
2.ขยายโอกาสให้ผู้ด้อยโอกาสเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนทุกระดับ
3.สร้างและพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการเกษตร และวิทยาศาสตร์ประยุกต์เพื่อการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่สังคม
4.ขยายบริการวิชาการและความร่วมมือในระดับประเทศและนานาชาติ
5.พัฒนามหาวิทยาลัยให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการเกษตร เพื่อเป็นที่พึ่งของตนเองและสังคม
6.ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
7.สร้างและพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีความโปร่งใสในการบริหารงานประเด็นยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ค่านิยมหลักของมหาวิทยาลัย (Core values) ประกอบด้วยM (Mindfulness) ทำด้วยจิต A (Aspiration) คิดมุ่งมั่น E (Excellence) ฝันเป็นเลิศ J (Justice) เทิดยุติธรรม และ O (Origin) นำเกียรติภูมิ
เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย “เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และพัฒนาด้านการเกษตร” และอัตลักษณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย “นักปฏิบัติที่เชี่ยวชาญในสาขาวิชาและทันต่อการเปลี่ยนแปลง”
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ได้มีการกำหนดเป้าหมายในการก้าวสู่ปีที่ 100 อย่างภาคภูมิและยั่งยืนในปี พ.ศ.2577 โดยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต (University of life)” คือการมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรอินทรีย์ (Organic University) มหาวิทยาลัย สีเขียว (Green University) และมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศ (Eco. University) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบนิเวศแห่งสังคมอุดมปัญญาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเป็นภูมิปัญญาด้านการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศ โดยวางยุทธศาสตร์การทำงานแบบบูรณาการ คือการพัฒนาตามภารกิจหลัก (Moderating Operation Center: MOC) ควบคู่ไปกับการทำงานเชิงรุกเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศ (Strategic Program Management Office: SPO) เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง มุ่งเน้นผลงานที่ตอบสนองความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง โดยทั้ง 2 ยุทธศาสตร์ต้องมีการบูรณาการซึ่งกันและกัน ประสานใช้ทรัพยากรร่วมกัน และเอื้อประโยชน์แก่กันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในรูปแบบการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ ด้วยการพัฒนาและผลักดันโครงการนำร่องในเชิงยุทธศาสตร์ (Flagship Projects) เพื่อพลิกโฉมมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ อาทิเช่น โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่มหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ โครงการผลิตกัญชาคุณภาพสูงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โครงการเมล็ดพันธุ์พืชอินทรีย์ระดับสากล โครงการฟาร์มอัจฉริยะ โครงการอุทยานเกษตรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ 100 ปีโครงการศูนย์บริการและนวัตกรรมดิจิทัล โครงการกาดแม่โจ้ 2477 โครงการมหาวิทยาลัยสีเขียว โครงการจัดตั้งคลินิกรักษาสัตว์ โครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทย์ โครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ โครงการแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวสีเขียวที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ฯ โครงการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร และการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ ตั้งศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มจ.และการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์นวัตกรรมการเกษตร ขึ้นในปี 2568 ซึ่งจะมหาวิทยาลัย แม่โจ้จะมีอายุครบ 90 ปี เป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ ความเป็นมา และการสั่งสมประสบการณ์ องค์ความรู้ ภูมิปัญญาทางการเกษตร ทำหน้าที่ในการบ่มเพาะและพัฒนาบุคลากรออกไปทำงานรับใช้ประเทศชาติ โดยเฉพาะด้านการเกษตรเป็นจำนวนมากกลายเป็นจุดเด่น และแสดงถึงความเป็นตัวตนของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ดำเนินการสนองพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ โดยเริ่มต้นจากสาเหตุที่ห้วยโจ้ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชน แต่เดิมเคยมีน้ำไหลตลอดปี แต่ในปี พ.ศ. 2520 เริ่มเกิดภาวะแห้งแล้ง โดยเฉพาะหน้าแล้งไม่มีน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงได้เสด็จมายังสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ ในวันที่ 2 มีนาคม 2521 มีพระราชกระแสรับสั่งให้สถาบันฯ หาลู่ทางเพื่ออนุรักษ์ และพัฒนาห้วยโจ้เพื่อเป็นแหล่งน้ำ สำหรับการเพาะปลูกในหน้าแล้งให้แก่ราษฎร
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่ห้วยโจ้อีกครั้ง และได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้กรมชลประทาน พิจารณาสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นในบริเวณต้นน้ำ และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
กรรณิการ์ เลิศพฤกษ์พนา
(ผู้บันทึกข้อมูล)
ข้อมูลวันที่ :
31/10/2568 11:31
รายละเอียดเพิ่มเติม
ตอนที่
1
รายละเอียด
ประเภท/ลักษณะงาน
ไม่ระบุ
เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
ไม่ระบุ
ระดับ
ระดับชาติ
ปริมาณงานทั้งหมด
1
ชั่วโมง
วัน
เป้าหมายผู้เข้าร่วม
9000
คน
จำนวนผู้เข้าร่วม
ไม่ระบุ
คน
ตอนที่
2
รายรับ-รายจ่าย
รายรับ
ไม่ระบุ
บาท
มูลค่ารายรับ
ไม่ระบุ
บาท
ค่าใช้จ่าย
ไม่ระบุ
บาท
มูลค่าค่าใช้จ่าย
ไม่ระบุ
บาท
ตอนที่
3
ผลการดำเนินงาน
ไม่ระบุ
ตอนที่
4
สอดคล้องสมรรถนะ
ประเภทสมรรถนะ
สมรรถนะหลักของมหาวิทยาลัย
สมรรถนะประจำกลุ่มงาน
สมรรถนะของผู้บริหาร
ตอนที่
5
เอกสารอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
ตอนที่
6
ภายใต้โครงการ
การประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ตอนที่
7
ภายใต้งานวิจัย
ไม่มีข้อมูล
ตอนที่
8
การบูรณาการ
ไม่มีข้อมูล